วิเคราะห์ 5 เสือเอเชีย ใครจะไปไกลกว่ากันในบอลโลก 2018
ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย มีตัวแทนจากทวีปเอเชียร่วมโม่แข้ง 5 ทีม ซึ่งแต่ละทีมอยู่ในกลุ่มที่หนักหนาสาหัสพอสมควร ใครสามารถฝ่าด่านทะลุเข้าถึงรอบลึกๆ ได้ ถือว่าไม่ธรรมดาแน่นอน…
ทีมชาติออสเตรเลีย
ทัพออสซี่ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 5 และเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน โดยในครั้งนี้อยู่ภายใต้การนำทัพของ “เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์” กุนซือชาวดัตช์ วัย 66 ปี ที่เคยฝากผลงานในระดับชาติมาแล้วกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กับ ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย โดยในรอบแรก จะอยู่กลุ่มเอร่วมกับ ทีมชาติฝรั่งเศส, ทีมชาติเปรู และทีมชาติเดนมาร์ก จะว่าหนักก็ไม่ถึงกับหนักมาก พอสู้ไหว โดยเฉพาะ 2 เกมกับ เปรู และเดนมาร์ก ที่ดูจะสูสี ส่วนเกมกับฝรั่งเศส ที่ชื่อชั้นเหนือกว่าเยอะ อาจต้องวิ่งสู้ฟัดแบบเกินร้อย ถ้าไม่อยากแพ้ แม้ว่าในครั้งนี้ ขุนพลออสซี่อาจจะหวังถึงรอบ 8 ทีม เพราะดีสุดเคยทำได้ถึงรอบ 16 ทีม เมื่อปี 2006 แต่ด้วยศักยภาพของทีมชุดนี้ น่าจะทำได้ถึงรอบ 16 ทีม เท่านั้น
ทีมชาติอิหร่าน
ยอดทีมแห่งดินแดนเปอร์เซีย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 5 โดยก่อนหน้านี้ 4 ครั้ง ตกรอบแรกทั้งหมด ดังนั้นในครั้งนี้พวกเขาจึงหวังว่าจะเข้าถึงรอบ 16 ทีม ให้ได้เป็นครั้งแรก แต่เมื่อดูเพื่อนร่วมกลุ่มบี ต้องบอกว่าโอกาสเข้ารอบต่อไปแทบจะไม่มีเลย เพราะคู่แข่งอย่างทีมชาติสเปน กับ ทีมชาติโปรตุเกส แข็งแกร่งกว่าเยอะ จะพอมีสูสีก็เพียงทีมชาติโมร็อกโก เท่านั้น งานนี้เห็นที “คาร์ลอส เครอซ” กุนซือชาวโปรตุเกส วัย 65 ปี คงต้องทำการบ้านอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการต้องโคจรมาพบกับทีมบ้านเกิดของตัวเองอีกด้วย
ทีมชาติญี่ปุ่น
ขุนพลซามูไร ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน เคยทำผลงานดีที่สุดคือเข้าถึงรอบ 16 ทีม 2 ครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่พวกเขาหวังจะทำให้ได้อีกครั้ง เพราะกลุ่มเอชมีเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ร้ายกาจมากนัก โดยการเจอกับทีมชาติโปแลนด์, ทีมชาติเซเนกัล และทีมชาติโคลอมเบีย ก็พอมีลุ้นแต้มเลยทีเดียว และถ้าพวกเขาทะลุเข้าถึงรอบ 16 ทีม ได้ การเข้ารอบ 8 ทีมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างแน่นอน งานนี้ต้องหวังพึ่งแท็กติกการคุมทีมของ “อากิระ นิชิโนะ” กุนซือวัย 63 ปี ว่าจะจัด 11 ตัวจริงอย่างไรในการพบกับคู่แข่งต่างทวีปทั้ง 3 ราย
ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย
พลพรรคสิงห์ทะเลทราย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 5 โดยก่อนหน้านี้เคยสร้างความฮือฮาด้วยการเข้าถึงรอบ 16 ทีม ในครั้งแรกที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเมื่อปี 1994 ส่วนในครั้งนี้ภายใต้การนำทัพของ “ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี” กุนซือชาวอาร์เจนตินา วัย 50 ปี ต้องงัดกลยุทธ์ทุกวิถีทางเพื่อช่วยทีมให้ทำผลงานดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยรอบแรก พวกเขาอยุ่กลุ่มเอ ร่วมกับ เจ้าภาพ ทีมชาติรัสเซีย, ทีมชาติอียิปต์ และทีมชาติอุรุกวัย ซึ่งจะว่าไปถือว่าไม่หนักมากนัก โอกาสลุ้นเข้ารอบ 16 ทีม ยังพอมีความหวัง
ทีมชาติเกาหลีใต้
แข้งพลังโสม เป็นทีมเดียวในเอเชียที่เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายมากที่สุดถึง 10 สมัย และในครั้งนี้เป็นการเข้ารอบสุดท้าย 9 สมัยติดต่อกันอีกด้วย และเคยทะลุไปคว้าอันดับ 4 ได้ในปี 2002 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่น แต่สำหรับครั้งนี้ พวกเขาเจอศึกหนักในกลุ่มเอฟ เพราะอยู่ร่วมกับแชมป์เก่า และอดีตแชมป์ 4 สมัย ทีมชาติเยอรมนี, ทีมชาติเม็กซิโก และทีมชาติสวีเดน ซึ่งเทียบฟอร์มกันแล้ว ลูกทีมของ “ชิน แต ยอง” กุนซือวัย 49 ปี แย่สุดเลยก็ว่าได้ งานนี้ถ้าผ่านเข้ารอบ 16 ทีมได้ ถือเป็นเรื่องที่เกินคาดแน่นอน