เช็ก 4 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเกม ‘ชุดขาว-หงส์แดง’ ชิงดำ ชปล. 2017-18

เช็ก 4 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในเกมระหว่าง “เรอัล มาดริด” กับ “ลิเวอร์พูล” ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซีซั่น 2017-18 ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ในค่ำคืนวันที่ 26 พ.ค.นี้…

ความเคลื่อนไหวของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน ภายใต้การนำทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส จะลงสนามพบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ภายใต้การบังคับการจาก เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017-18 ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคมนี้ เวลา 01.45 น. ตามเวลาประเทศไทย เราจึงได้คัดเอา 4 เหตุการณ์สำคัญๆ ที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในเกมนี้มาให้อ่านกันเป็นน้ำจิ้มๆ ก่อนที่เกมการแข่งขันจริงจะเริ่มต้นขึ้น

1. เพรสซิ่งของ เยอร์เกน คลอปป์

แม้ว่าจะเป็นนัดชิงชนะเลิศที่มีความสำคัญที่สุดในรอบ 10 ปีของสโมสรชื่อก้องแห่งเมืองเมอร์ซีไซด์ก็ว่าได้ ซึ่งตรงจุดนี้ เยอร์เกน คลอปป์ คงจะรู้เป็นอย่างดี จริงๆ แล้วในการแข่งขันในรายการนี้หลายๆ ทีมจะเน้นความแน่นอนเป็นหลักตั้งแต่รอบแรกๆ ถึงรอบลึกๆ แต่เชื่อเหลือเกินว่าแม้จะเป็นเกมที่สำคัญในรอบชิงชนะเลิศ แต่เราน่าจะได้เห็นบางช่วงบางตอนที่ เยอร์เกน คลอปป์ สั่งให้ลูกทีมวิ่งบีบเพรสซิ่งเร็วๆ เพื่อชิงความได้เปรียบแน่นอน แม้จะแลกด้วยการเสียพละกำลังที่เพิ่มขึ้นตลอดจนช่องโหว่ที่จะขึ้นตามมา

2. ซีดาน Vs คลอปป์

ในเกมระดับนี้มีอีก 1 ปัจจัยหลักที่น่าจะส่งผลถึงโอกาสที่จะชนะหรือแพ้ ได้กลายๆ เลยนั่นก็คือแท็กติกหรือระบบการเล่นที่ผู้เป็นกุนซือจะต้องวางแผนให้รอบคอบ แยบยล ซ่อนเงื่อน กันเลยทีเดียว ถ้ามองโดยภาพรวมกว้างๆ ทั้งคู่ถือเป็นกุนซือที่เน้นทำบอลเล่นเกมรุกเป็นหลัก ถนัดเดินหน้าเข้าหามากกว่าการถอยร่นลงมารับมือ บางทีเกมในนัดนี้อาจจะไม่ใช่รูปเกมตั้งรับอึดอัดอะไรมาก แต่น่าจะมีเน้นความแน่นอนไม่ให้เสียบอลง่ายเข้ามาแค่นั้น

3. ซาลาห์ Vs โรนัลโด

ด้วยความที่ทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ คริสเตียโน โรนัลโด คือสองตัวชูโรงของทั้งสองฝั่ง ย่อมต้องถูกเปรียบเทียบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเช็กฟอร์มของส่วนตัวดูท่าว่า ซาลาห์ จะข่มกว่านิดๆ ด้วยผลงาน 32 ประตูในลีก ส่วน โรนัลโด ทำได้เพียง 26 ประตูเท่านั้น แต่ในรายหลักผ่านประสบการณ์เกมระดับใหญ่ๆ มาหลายครั้ง ซึ่งตรงนี้ที่ ซาลาห์ ยังเป็นรอง เอาแค่เฉพาะรายการนี้นี่คือนัดชิงชนะเลิศครั้งแรกของเขา บางทีเกมที่อาจจะตื้อๆ ตันๆ แน่นไปด้วยแท็กติก อาจต้องชี้ขาดผลแพ้ชนะด้วยความเฉียบขาดของ 2 คนนี้ว่าใครจะสามารถฉวยโอกาสไว้ได้

4. ความผิดพลาดอาจตัดสินผลแพ้ชนะ

เกมฟุตบอลถ้วยที่มีเขี้ยวลากดินอย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แน่นอนว่านอกเหนือจากความสามารถและแผนการเล่นแล้ว คุณต้องเล่นด้วยมันสมองผนวกกับสมาธิที่ต้องมีทุกวินาที ซึ่งมองเผินๆ ลิเวอร์พูล อาจจะมีเครื่องหมายคำถามใหญ่กว่านิดๆ ด้วยแผงแนวรับที่แม้จะได้ เวอร์กิล ฟานไดค์ เข้ามา แต่ถ้าพูดกันตามตรงเขาคือก็ผู้แบกแผงหลังของทีม และจะต้องเหนื่อยหนักเป็น 2-3 เท่าในเกมนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะต้องคอยเช็กรายละเอียดของ ลอริส คาริอุส มือกาวชาวเยอรมัน ที่พร้อมจะสร้างความผิดพลาดได้ตลอดเวลา แต่ทว่าทางฝากของ เรอัล มาดริด ในรายของ เซร์คิโอ รามอส ที่แม้จะได้รับการยอมรับว่าเขาคือหนึ่งในปราการหลังตัวกลางที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่จุดอ่อนของเขาคือเรื่องการคุมอารมณ์ตลอดจนการเข้าบอลที่บางทีอาจจะออกลูกโฉ่งฉ่างไปหน่อย จนทำให้ทีมเสียเปรียบโดยไม่จำเป็น ซึ่งต้องมาดูกันว่าใครจะก่อความผิดพลาดขึ้นมาในเกมแบบนี้.

ข้ามไปยังทูลบาร์