สงครามยังไม่จบ! มุ้ย ยังหวัง ซานเฟรชเช ปาดหน้าคว้าแชมป์เจลีก 3 นัดสุดท้าย
การแข่งขันฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 3 พ.ย. จูบิโล่ อิวาตะ อันดับ 14 มี 37 แต้ม เปิดสนามชิซึโอกะ สเตเดี้ยม เอโคปา รับการมาเยือนของ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ทีมรองจ่าฝูงที่มี 56 แต้ม โดยนัดนี้ทีมเยือน ส่ง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าทีมชาติไทย ลงสนามเป็นผู้เล่นตัวจริง และ “เจ้ามุ้ย” ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยิงประตูให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 31 จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา บอลเลยไปทางเสาไกล ก่อนที่ธีรศิลป์ จะพุ่งโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย และเป็นประตูที่ 6 ของดาวยิงทีมชาติไทยในเจลีก จบครึ่งแรก ซานเฟรซเช่ นำเจ้าบ้าน 1-0
เริ่มครึ่งหลัง ทีมเยือนยังมีโอกาสอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ธีรศิลป์ แต่ยังไม่สามารถบวกประตูเพิ่มได้ จนกระทั่งนาทีที่ 58 เป็นเจ้ามุ้ย เก็บบอลได้จากจังหวะยิงของเพื่อนร่วมทีมในกรอบเขตโทษ แล้วไหลคืนให้ ทาคุยะ วาดะ ซัดตุงตาข่าย ให้ทีมเยือนหนีออกไป 2-0 แต่ทว่าหลังจากนั้นเจ้าบ้านฮึดกลับมาจนสามารถไล่ตีเสมอได้ 2-2 ในช่วงท้ายเกม ก่อนที่ในนาทีที่ 85 ธีรศิลป์จะถูกเปลี่ยนตัวออกไป
เกมทำท่าจะจบแค่นั้น แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นมาได้ประตูชัยจากจุดโทษของ โคกิ โอกาวะ ทำให้จบเกม จูบิโล่ อิวาตะ พลิกเอาชนะ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า 3-2 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 11 ของตาราง ขณะที่ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ยังคงรั้งรองจ่าฝูงเหมือนเดิม มีแต้มตามหลัง คาวาซากิ ฟอนตาเล่ เพิ่มเป็น 7 คะแนน หลังจากวันนี้ทีมจ่าฝูงเก็บชัยชนะเหนือ คาชิว่า เรย์โซล 3-0 ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์เหลือน้อยเต็มที
หลังเกม “มุ้ย” เผยว่า ประตูที่ยิงได้ก็ถือเป็นจังหวะของเกมที่ทำให้ตนมีโอกาสยิงประตู ส่วนผลวันนี้ต้องยอมรับว่า จูบิโล่ อิวาตะ เปลี่ยนตัวแก้เกมมาดีทำให้เราอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตามในเกมที่เหลืออีก 3 นัด เราต้องพยายามทำอย่างเต็มที่แม้แต้มจะถูกทิ้งห่างออกไป แต่ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หวังว่าโอกาสลุ้นแชมป์ของยังไม่ปิดสำหรับเรา