ฝรั่งเศส พุ่งขึ้นอันดับ 1 ของโลก – เยอรมนี หลุดท็อปเท็น – ไทย ยังที่ 3 อาเซียน

ฝรั่งเศส พุ่งขึ้นอันดับ 1 ของโลก – เยอรมนี หลุดท็อปเท็น – ไทย ยังที่ 3 อาเซียน

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศผลการจัดอันดับโลกล่าสุดประจำเดือนสิงหาคม 2018 ซึ่งปรากฏว่า “ตราไก่” ฝรั่งเศส จากโซนยุโรป ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 หลังคว้าแชมป์โลก 2018 ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี หล่นฮวบไม่ติดแม้แต่ท็อปเท็น

สำหรับการคิดคะแนนหนนี้เริ่มใช้ระบบใหม่ โดยน้ำหนักส่วนใหญ่จะขึ้นกับผลแพ้ชนะจากแต่ละเกมของรอบปฏิทินฟีฟ่ามาบวกลบกับแต้มสะสมรวมเดิม ต่างจากระบบเดิมที่อาศัยการคำนวณค่าเฉลี่ยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ซึ่งจากวิธีการคำนวณแบบนี้ ทำให้ฝรั่งเศสขยับพุ่งถึง 6 ขั้น ก้าวสู่เบอร์ 1 ของโลกได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ “ตาหมากรุก”โครเอเชีย ที่ได้รองแชมป์โลก ขึ้นมาถึง 16 ขั้น ก้าวสู่อันดับ 4 ในเดือนนี้

ส่วนท็อปเท็นรายอื่นมีดังนี้ 2.เบลเยียม 3.บราซิล(อันดับ 1 โซนอเมริกาใต้) 5.อุรุกวัย 6.อังกฤษ 7.โปรตุเกส 8.สวิตเซอร์แลนด์ 9.สเปน/เดนมาร์ก

ขณะที่ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี ซึ่งเคยเป็นเบอร์ 1 ก่อนศึกฟุตบอลโลก แต่กลับจอดป้ายเพียงรอบแบ่งกลุ่ม หนนี้อันดับจึงหล่นถึง 14 ขั้น ร่วงมาอยู่ที่ 15 ของโลก

ด้านโซนเอเชีย 5 อันดับแรกมีดังนี้ 1.อิหร่าน(อันดับ 32 ของโลก) 2.ออสเตรเลีย(อันดับ 43 ของโลก) 3.ญี่ปุ่น(อันดับ 55 ของโลก) 4.เกาหลีใต้(อันดับ 57 ของโลก) 5.ซาอุดีอาระเบีย(อันดับ 70 ของโลก)

ขณะที่ “ช้างศึก”ทีมชาติไทย ยังอยู่อันดับ 122 ของโลกตามเดิม โดยเป็นที่ 23 ของเอเชีย และอันดับ 3 ของอาเซียน ตามหลังเวียดนาม(อันดับ 122 ของโลก) และฟิลิปปินส์(อันดับ 115 ของโลก)

สำหรับเบอร์ 1 ของโซนอื่นที่เหลือ ได้แก่ คอนคาเคฟ : เม็กซิโก(อันดับ 16 ของโลก) แอฟริกา : ตูนิเซีย(อันดับ 24 ของโลก) โอเชียเนีย : นิวซีแลนด์(อันดับ 119 ของโลก) ส่วนการจัดอันดับหนต่อไปจะมีขึ้นวันที่ 20 กันยายน

ข้ามไปยังทูลบาร์