สวีเดน เฉือนชัย สวิสเซอร์แลนด์ 1-0 ประตู

สวีเดน เฉือนชัย สวิสเซอร์แลนด์ 1-0 ประตู

เกมแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ประจำวันที่ 3 กรกฏาคม 2561 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีม”ไวกิ้ง”สวีเดน แชมป์กลุ่ม เอฟ พบ ทีมสวิตเซอร์แลนด์ “แดนนาฬิกา” รองแชมป์กลุ่ม อี ฟาดแข้งกันที่ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
นักเตะไวกิ้งผ่านเข้ารอบสองจากผลงาน ชนะ 2 แพ้ 1 (ชนะเกาหลีใต้ 1-0 พ่ายเยอรมนี 1-2 ก่อนถล่ม เม็กซิโก 3-0) ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ เสมอ บราซิล 1-1 ชนะ เซอร์เบีย 2-1 ก่อนเสมอ คอสตาริกา 2-2 เข้ามาเป็นอันดับที่ 2
สถิติการโคจรมาพบกัน ทั้งสิ้น 28 เกม สวิสชนะ 11 สวีเดนชนะ 10 เสมอกันไป 7 ครั้ง ทว่าในเกมนี้จะเป็นการพบกันครั้งแรกในศึกใหญ่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายของทั้งสองทีม

สำหรับรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีมมีดังนี้

สวีเดน (4-4-2) : 1.โรบิน โอลเซน – 2.มิคาเอล ลุสติก, 3.วิกตอร์ ลินเดเลิฟ, 4.อันเดรียส กรานควิสต์, 6.ลุดวิก ออกุสตินส์สัน – 17.วิกตอร์ แคลสสัน, 13.กุสตาฟ สเวนส์สัน, 8.อัลบิน เอ็กดัล, 10.เอมิล ฟอร์สเบิร์ก – 9.มาร์คุส เบิร์ก, 20.โอลา ทอยโวเนน

สวิตเซอร์แลนด์ (4-2-3-1) : 1.ยานน์ ซอมเมอร์ – 6.มิชาเอล ลัง, 20.โยอัน ฌูรู, 5.มานูเอล อาคันจี, 13.ริคาร์โด โรดริเกซ – 11.วาลอน เบห์รามี, 10.กรานิต ชากา – 23.แชร์ดาน ชากิรี, 15.เบลริม เชไมลี, 14.สตีเวน ซูเบอร์ – 19.โยซิป เดอร์มิช

เริ่มเกม สวิสทักทายก่อนทันทีด้ัวยลูกยิงไกลของ  ชากิรี แต่บอลเรียดออกข้างเสาไป สวีเดนโต้กลับได้ฟรีคิกบ้าง แต่บอลยังคงโดนสกัดพ้นอันตรายออกไป นาทีที่ 7 มาร์คุส เบิร์ก ของสวีเดนหลุดเดียวเข้ากรอบ ก่อนสับไกยิงทว่าบอลผิดเหลี่ยมออกนอกเป้าไปเฉย

 

ผ่านไป 25 นาที ทั้งสองทีมผลัดกันรุกรับสูสี เพียงแต่ยังขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้ายเท่านั้น นาทีถัดมา  ยานน์ ซอมเมอร์ นายทวารแดนนาฬิกาได้โชว์ฟอร์มเหินตัวปัดลูกยิงเผาขนในกรอบของสวีเดน ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด

ผ่านไปครึ่งชัวโมง สวิตฯ เริ่มครองบอลได้มากกว่า ถึง 62 เปอร์เซ็นต์ แถมยังมีโอกาสส่องเหน่งๆ แต่บอลก็ข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ นักเตะไวกิ้งสวนกลับไปฟรีคิกบ้าง บอลแฉลบกำแพงเป็นลูกเตะมุม ทว่าจังหวะสุดท้ายก็ทำบอลเสียเตะโด่งออกหลังไปเองแบบเสียของเช่นกัน จบ 45 นาทีครึ่งแรก แบบจืดชืด ด้วยสกอร์ 0-0 ประตู

เริ่มครึ่งหลัง ต้นเกมเป็นสวีเดนบ้างที่พาบอลเข้ากรอบเขตโทษคู่แข่ง ทว่าจังหวะสุดท้ายก็ยังเฟอะฟะยิงนกตกปลาเสียของอีกเหมือนเดิม สวิสตั้งหลักพักเกมบุกมีโอกาสโยนบอมในกรอบเขตโทษบ้าง ด้วยลูกเตะมุมซ้อนๆ แต่ก็ยังขาดความคมเหมือนทุกครั้ง ผ่านไปนาที 62 สวีเดนสวนกลับเร็วถูกทำฟาว์ลได้ฟรีคิกเป็นโอกาสบ้าง โอลา ทอยโวเนน ก็หวดบอลไม่ผ่านแนวรับสวิสอีก

นาที 66 กองเชียร์ไวกิ้งได้เฮกันลั่นเสียที จากจังหวะเคาะบอลตามช่อง ก่อน เอมิล ฟอร์สเบิร์ก จับบอลกลางประตูหวดเต็มข้อ บอลพุ่งแฉลบถูก  มานูเอล อาคันจี แนวรับ ลูกกระดอนข้ามทำให้ ยานน์ ซอมเมอร์ ประตูสวิสเสียจังหวะ ก่อนลูกพุ่งเสยเข้าประตูกลายเป็นสกอร์ให้สวีเดนขึ้นนำ 1-0 ประตู

70 นาทีผ่านไป สวิสต้องปรับแผนส่ง ปรีส เอ็มโบโล และ ฮาริส เซเฟโรวิช สองกองหน้าลงมาพร้อมก้นเพื่อเติมเกมรุกเข้าใส่ให้หนักหน่วงขึ้น เหล่านักเตะแดนนาฬิกาครองเกมบุกแทบจะขึงพื้นที่อยู่ข้างเดียว เกือบสิบครั้งตลอดช่วงครึ่งหลัง แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับคู่แข่งได้อยู่ดี

ช่วงทดเจ็บ เซเฟโรวิช ได้บอลโขกเผาขน แต่ลูกติดมือนายทวารสวีเดนตะครุบติดหนึบ ชวดเป็นประตูตีเสมอให้สวิสอย่างน่าเสียดาย นาทีสุดท้าย มาร์ติน โอลสัน ของ สวีเดน ได้บอลทะลุหลุดเดียว เข้ากรอบแต่โดน 6 สวิส ผลักหลัง เปาเป่าเป็นจุดโทษพร้อมควักใบแดงไล่ 6 ออกจากสนาม ก่อนจะหันไปดูวีเออาร์ ช่วยตัดสิน กล้องชี้ชัดเป็นลูกทำฟาว์ล เป็นฟรีคิกคาบเส้น กลับคำตัดสินที่จะให้เป็นจุดโทษในตอนแรก
โอลา ทอยโวเนน รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกแต่บอลถูก ซอมเมอร์ นายทวารสวิสชกบอลพ้นอันตราย รอดการเสียประตูที่สองไปอย่างหวุดหวิด กรรมการเป่าหมดเวลา ทำให้ สวีเดน เฉือนเอาชนะ สวิสเซอร์แลนด์ ไปในที่สุด 1-0 ประตู ส่งผลให้ สวีเดน ลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสมใจ พร้อมเขี่ย สวิสเซอร์แลนด์กลับบ้าน

ข้ามไปยังทูลบาร์